ชีวิตไม่มีคำว่าท้อ ถ้ายังไม่ได้ลองทำมัน เอ๊า สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ

จะท้อไม่ได้ เราต้องทำได้

วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เกราะ 5 ชั้น และคุณธรรม 4 ประการ

ฟังการบรรยายจาก พระอาจารย์ ศรศิริ ติสรโณ
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสันติวัน จ.พิษณุโลก

เรื่อง เกราะ 5ชั้นและคุณธรรม 4 ประการ

* เกราะป้องกันอันดับแรกเลยต้องเริ่มต้นที่ตัวเราก่อน ต้องรู้จักคิด รู้จักสามัคคี มีสติในการแก้ไขปัญหาและทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น ศีลเป็นพื้นฐานของการดำเนินชีวิต

เกราะ 5 ชั้น คือ "ศีล"ดังคำกล่าวที่ว่า
"ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเเกราะอย่างอัศจรรย์"
เบญจศีล "คือความปกติของมนุษย์"
ข้อ 1 ปาณาติปาตา เวรมณี เว้นจากทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป หรือตาย
ข้อ 2 อทินนาทานา เวรมณี เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของ ไม่ได้ให้ด้วยการแห่งขโมย
ข้อ 3 กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี เว้นจากประพฤติผิดในกาม
ข้อ 4 มุสาวาทา เวรมณี เว้นจากการพูดเท็จ
ข้อ 5 สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี เว้นจากดื่มน้ำเมา คือสุราเมรัย อันเป็นที่สิ่งที่ทำให้เราประมาท
ทำไมต้องรักษาศีล?ข้อ 1 เพระาใครๆก็รักชีวิตตัวเอง
ข้อ 2 เพราะใครๆก็อยู่เป็ฯสุขด้วยสมบัติของตนเอง
ข้อ 3 เพราะใครๆก็รักพี่น้องพวกพ้องของเขา
ข้อ 4 เพราะใครๆก็รักความจริงใจด้วยกันทั้งนั้น
ข้อ 5 เพราะว่าเมื่อดื่มเข้าไปแล้วก็จะทำลายสติของเรา เมื่อสติของเราเสียหายไปแล้ว
ศีลข้ออื่นๆก็พร้อมที่จะขาดไปหมด (ศีลข้อนี้สำคัญที่สุด)* ก่อนจะสอนคนอื่นให้ดีได้ ต้องสอนตัวเองให้ดีซะก่อน

ใช้ศีลเป็นเกราะป้องกันในการดำเนินชีวิต

วิบากกรรมของการผิดศีลข้อ 1 ฆ่าสัตว์ วิบากกรรมคือ อายุสั้น
ข้อ 2 ลักทรัพย์ วิบากกรรมคือ ทรัพย์สมบัติพินาศ
ข้อ 3 ประพฤติผิดในกาม วิบากกรรมคือ ครอบครัวแตกแยก
ข้อ 4 โกหก วิบากกรรมคือ โรคภายในช่องปาก, มะเร็งช่องปาก, ฟันไม่สวย
ข้อ 5 ดื่มน้ำเมา วิบากกรรมคือ เกิดมาโง่เขลา, ปัญญาอ่อน

วิธีสร้างเกราะภายในตน
คือ การตั้งใจงดเว้นจากการประพฤติผิดทางกายและวาจา
1. งดเว้นโดยไม่ตั้งใจไว้ก่อน
2.งดเว้นโดยตั้งใจและปฏิญาณไว้ก่อน
3. งดเว้นด้วยตัดขาดได้
ธรรมที่เกื้อกูลต่อการรักษาศีล
"หิริ โอตตัปปะ"
หิริ คือความละอายต่อบาป เกิดขึ้นด้วยการพิจารณาถึงฐานะของตนเอง
โอตตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อบาป เกิดขึ้นได้ เพราะกลัวว่าตนเองจะเดือดร้อนในภายหลัง
"เมื่อมีหิริโอตตัปปะ ศีลก็เกิดขึ้นและตั้งอยู่ได้
เมื่อไม่มีหิริโอตตัปปะ ศีลก็ไม่เกิดและตั้งอยู่ไม่ได้"
ที่สำคัญที่สุดคือ "การมีสติ"
คุณธรรม 4 ประการ คือ "ฆราวาสธรรม" คือ 1. สัจจะ คือ นิสัยความรับผิดชอบ
2. ทมะ คือ นิสัยรักการฝึกฝนตนเอง
3. ขันติ คือ นิสัยอดทน
4. จาคะ คือ นิสัยเสียสละ
ทำไมต้องรักษาศีล?ข้อ 1 เพระาใครๆก็รักชีวิตตัวเอง
ข้อ 2 เพราะใครๆก็อยู่เป็ฯสุขด้วยสมบัติของตนเอง
ข้อ 3 เพราะใครๆก็รักพี่น้องพวกพ้องของเขา
ข้อ 4 เพราะใครๆก็รักความจริงใจด้วยกันทั้งนั้น
ข้อ 5 เพราะว่าเมื่อดื่มเข้าไปแล้วก็จะทำลายสติของเรา เมื่อสติของเราเสียหายไปแล้ว
ศีลข้ออื่นๆก็พร้อมที่จะขาดไปหมด (ศีลข้อนี้สำคัญที่สุด)* ก่อนจะสอนคนอื่นให้ดีได้ ต้องสอนตัวเองให้ดีซะก่อน

ใช้ศีลเป็นเกราะป้องกันในการดำเนินชีวิตวิบากกรรมของการผิดศีล
ข้อ 1 ฆ่าสัตว์ วิบากกรรมคือ อายุสั้น
ข้อ 2 ลักทรัพย์ วิบากกรรมคือ ทรัพย์สมบัติพินาศ
ข้อ 3 ประพฤติผิดในกาม วิบากกรรมคือ ครอบครัวแตกแยก
ข้อ 4 โกหก วิบากกรรมคือ โรคภายในช่องปาก, มะเร็งช่องปาก, ฟันไม่สวย
ข้อ 5 ดื่มน้ำเมา วิบากกรรมคือ เกิดมาโง่เขลา, ปัญญาอ่อน

วิธีสร้างเกราะภายในตน คือ การตั้งใจงดเว้นจากการประพฤติผิดทางกายและวาจา
1. งดเว้นโดยไม่ตั้งใจไว้ก่อน
2.งดเว้นโดยตั้งใจและปฏิญาณไว้ก่อน
3. งดเว้นด้วยตัดขาดได้

ธรรมที่เกื้อกูลต่อการรักษาศีล
"หิริ โอตตัปปะ"
หิริ คือความละอายต่อบาป เกิดขึ้นด้วยการพิจารณาถึงฐานะของตนเอง
โอตตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อบาป เกิดขึ้นได้ เพราะกลัวว่าตนเองจะเดือดร้อนในภายหลัง
"เมื่อมีหิริโอตตัปปะ ศีลก็เกิดขึ้นและตั้งอยู่ได้
เมื่อไม่มีหิริโอตตัปปะ ศีลก็ไม่เกิดและตั้งอยู่ไม่ได้"
ที่สำคัญที่สุดคือ "การมีสติ

คุณธรรม 4 ประการ คือ "ฆราวาสธรรม" คือ 1. สัจจะ คือ นิสัยความรับผิดชอบ
2. ทมะ คือ นิสัยรักการฝึกฝนตนเอง
3. ขันติ คือ นิสัยอดทน
4. จาคะ คือ นิสัยเสียสละ

* เกราะป้องกันอันดับแรกเลยต้องเริ่มต้นที่ตัวเราก่อน ต้องรู้จักคิด รู้จักสามัคคี มีสติในการแก้ไขปัญหาและทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น ศีลเป็นพื้นฐานของการดำเนินชีวิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น